fbpx
Screen Shot 2563-10-08 at 10.43.09

โค้ชลูกอย่างไรให้เอนท์ติดโปรแกรมอินเตอร์ จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 3

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอะไรก็ดูเปลี่ยนตาม ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ การใช้ชีวิต หรือการศึกษา สิ่งเหล่านั้น ทำให้ New Gen มีความต้องการในเรื่องต่างๆ แตกต่างไปจากเดิม

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ช่วงเวลาต่างๆ ของลูกสำคัญเสมอ ซึ่งรวมไปถึงช่วงวางแผน เตรียมตัวเพื่อจะเข้าโปรแกรมอินเตอร์ฯ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ จนกระทั่งวันสอบ SAT วันประกาศคะแนนจาก College Board ต่อเนื่องยาวไปถึงวันที่ต้องยื่น Admission และรอการประกาศผลจากคณะ ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่จะเป็นพลังกายและพลังใจอันแสนยิ่งใหญ่ที่จะส่งต่อถึงลูกๆ และหากเป็นเช่นนั้นคุณพ่อคุณแม่ยุค 5.0 ควรดูแลลูกๆอย่างไร ทาง Warwick Institute จึงได้รับเกียรติจากคุณพ่อไมตรี ญาณสมบูรณ์ คุณพ่อฮีโร่ที่จะมาแชร์เทคนิคการโค้ชลูกแบบเจาะลึก จนทำให้น้องจีนได้ติดเข็มพระเกี้ยวเข้าเรียน BBA Chula ใน Admission 2020 ได้สำเร็จอย่างมีความสุข

เทคนิคโค้ชลูกจากครอบครัวฮีโร่

น้องจีนมีจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่หลายครั้งแต่ทุกครั้งครอบครัวก็จับมือกันผ่านมาได้ด้วยรอยยิ้ม แรกเริ่มเดิมทีน้องจีนก็เหมือนกับเด็กผู้ชาย
คนอื่นๆ ทั่วไป ติดเกม ชอบเตะฟุตบอล ชอบทำกิจกรรม แต่โชคดีตรงที่เขาเป็นเด็กฉลาดมีไหวพริบ เรียนดี ช่วงมัธยมต้นเรียนที่
โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีฯ เพราะใกล้บ้าน จุดเปลี่ยนแรกเริ่มต้นตอนที่เขาขึ้นมัธยมปลายได้มีโอกาสไปติวภาษาอังกฤษกับรุ่นพี่เตรียมอุดมฯเพราะพี่สาวกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากเป็นเด็กเตรียมอุดมฯ “ตอนนั้นลูกเดินเข้ามาปรึกษา
บอกว่า จะขอดร็อปเรียนม. 4  เพราะเขาจะอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าเตรียมอุดมฯ ได้ยินครั้งแรกผมเป็นห่วงลูกมาก แต่ด้วยแววตาที่มุ่งมั่นของเขา ทำให้เราเชื่อและยินดีสู้ไปกับเขา”
หลังจากนั้นน้องจีนเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ไม่เล่นเกม ขยันทำแบบฝึกหัด อ่านหนังสืออย่างหนัก จนกระทั่งสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์ – ฝรั่งเศส ได้เป็นอับดับที่ 7 ตามความมุ่งมั่นและตั้งใจของเขา

และช่วงที่น้องจีนเริ่มเรียนอยู่ม. 5 ก็เริ่มมีการพูดคุยกันว่าอยากเรียนต่อคณะอะไร ตอนนั้นน้องจีนยังไม่มีคณะในใจ พ่อก็เลยแนะนำให้เรียนนิติศาสตร์ เพราะเขาเองก็รู้จักคนในแวดวงผู้พิพากษา แต่นานวันเข้าความสุขในการเรียนภาษาอังกฤษประกอบกับศักยภาพในการเรียนรู้ของลูกก็เริ่มทำให้พ่อเสียดายโอกาสในการเรียนคณะอื่นๆ ของลูก ด้วยความบังเอิญที่ตอนนั้นมีกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครองของโรงเรียนเตรียมอุดม ได้ทราบข่าวสารจากวอร์ริคคุณพ่อจึงลองชักชวนและแนะนำให้น้องจีนไปร่วมงาน Decode Your Business DNA Forum ครั้งที่ 1 ซึ่งวันนั้นเองที่เป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งของครอบครัว “หลังจากกลับมาถึงบ้านลูกเข้ามาบอกว่าเขารู้แล้วว่าเป้าหมายของเขาคือการได้เข้า BBA ให้ได้ โดยไม่มีคณะไหนสำรองไว้ในใจเลยด้วย แต่แววตาของเขาเหมือนกับวันที่เขามาขอดร็อปเรียนม. 4 เลย ทำให้ผมเลยเชื่อมั่นในตัวลูก
อีกครั้งว่าเขาต้องทำได้” 

หลังจากมีเป้าหมายใหม่ว่าจะเข้าโปรแกรมอินเตอร์ฯ จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์แล้ว น้องจีนก็ต้องติวเข้มเพื่อที่จะสอบให้ได้คะแนน SAT สูงๆ ทำให้น้องจีนได้มีโอกาสให้เข้ามาทำ Workshop และเรียนที่วอร์ริค น้องจีนเริ่มเรียน SAT Math Beginner กับพี่บี และสอบวัดระดับด้วย SAT Simulation Test และได้กระโดดข้าม 4 Levels เลื่อนระดับไปเรียน Legendary ซึ่งเป็น Level สูงสุดของคลาส SAT Math
และด้วยความตั้งใจแน่วแน่ของจีน ก็ทำให้น้องจีนได้ SAT Math 800 #FullMark ในรอบ October 2019 ซึ่งนับเป็นการสอบสนามจริงรอบที่ 3 และมีที่นั่งใน BBA Chula สมใจ

ความสำเร็จก้าวนี้ของจีนถือเป็นความภูมิใจและความสุขของครอบครัวที่คุณพ่อเชื่อว่าทุกครอบครัวสามารถสร้างมันขึ้นมาได้  “ผมอยากให้พ่อแม่ทุกคนเป็นคนจับถูก คอยให้กำลังใจและสนับสนุน ไม่มัวแต่ไปจับผิดว่าลูกทำผิดพลาดตรงไหน แล้วเขาจะกล้าคุยกับเราแบบเปิดใจมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเกรดเฉลี่ยของลูก สมมติว่าลูกได้เกรด 4 เกือบทุกตัวเลย แต่มีเกรด 3 โผล่มาตัวหนึ่ง พ่อแม่ส่วนใหญ่จะถามว่าทำไมถึงไม่ได้ 4 ซึ่งมันไม่ใช่ เราจะไปถามหา 4 อีกตัวทำไม ในเมื่อลูกเราได้ 4 เยอะมาก ผมจะบอกลูกทันทีว่าเขาเก่งแค่ไหนที่ทำได้ขนาดนี้ แล้วเขาก็ทักขึ้นมาว่าเขาได้ 3 วิชานี้เพราะอะไร แล้วเขาจะปรับปรุงแก้ไขยังไง”

เทคนิคโค้ชลูกในรูปแบบของวอร์ริค

ตอนเด็กๆ เรามักได้ยินคำถามว่า “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” ซึ่งแต่ละคนก็จะมีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป แต่รู้ไหมว่าคำถามนี้ใช้กับยุคศตวรรษที่ 21 ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะมีงานวิจัยจาก Institute for the Future (IFTF) กล่าวว่าในอนาคตอาชีพทั่วไปที่เราเห็นกันอยู่จนชินตาอย่าง หมอ พยาบาล ตำรวจ นักข่าวหนังสือพิมพ์ และอาชีพอื่นๆ จะลดจำนวนลงเหลือเพียงแค่ 15% ในอนาคต และมีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นมาแทนที่ ยกตัวอย่างเช่น คนควบคุมการขึ้น – ลงของโดรนส่งของ, นักสร้างอวัยวะเทียม หรือแม้แต่วิศวกรที่มีความชำนาญในการควบคุมอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด นั่นแปลว่าคุณพ่อคุณแม่ยุค 5.0 อาจต้องเปลี่ยนคำถามที่จะถามลูกใหม่ “ลูกทำอะไรแล้วมีความสุข” จับมือและอยู่ทีมเดียวกันกับลูก ต่อสู้กับศัตรูที่มีชื่อว่า TCAS และเอาชนะด้วย Challenge 3 ประการ

(1) Dream เราต้องเชื่อในความฝันและความชอบของลูก เพราะถ้าเป็นสิ่งที่เราทำและมีความสุข ต่อให้อนาคตมันจะมีอุปสรรคเข้ามามากมายแค่ไหน เขาจะมองว่ามันความสนุกที่น่าท้าทายและปรับตัวให้อยู่กับมันได้แน่นอน
(2) Success Pathway ในระหว่างการเดินทางไปถึงเส้นชัย เราอาจไม่เคยรู้เลยว่าลูกต้องร้องไห้อีกกี่ครั้ง แต่ถ้าเราใส่ใจและวางแผน
จะทำให้เรามีการรับมือเพื่อซัพพอร์ตลูกได้ ถ้าใกล้สอบเราจะอยู่บ้านกับลูกให้กำลังใจ ช่วงหลังสอบมีเวลาพาลูกไปเที่ยวได้ หรือช่วงไหน
ที่ควรผลักดันให้ไฟแห่งความพยายามของลูกไม่มอดดับไปกลางครัน
(3) Grit มีความดื้อรั้นขัดขืน พยายามทุกวิธีทางเพื่อที่จะได้มาเหมือนสิ่งที่ตนเองนั้นฝันไว้ เปรียบเสมือนม้าแข่งที่มีม่านบังตา โฟกัส ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งให้ถึงจุดหมาย ถ้าเปรียบอนาคตของลูกให้อยู่ท่ามกลางดวงดาวบนกาแล็กซี่ จงตั้งเป้าไว้ที่ดวงดาวที่ไกลที่สุดเพื่อที่เราและลูกจะได้เตรียมเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดพร้อมเชื้อเพลิงเต็มถังเพื่อเดินทาง หากสุดท้ายแล้วลูกไปไม่ถึงดาวดวงนั้นก็ยังมีดาวอื่นๆ คอยต้อนรับ แต่สิ่งสำคัญคือลูกจะไม่กลับมายืนที่ดาวโลกดวงเดิมอีกแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้นการโค้ชลูกให้ประสบความสำเร็จไม่ได้มีเทคนิคหรือวิธีการใดที่ตายตัว บางวิธีอาจใช้กับบางครอบครัวไม่ได้ผล แต่เราสามารถเอาประเด็นและใจความสำคัญไปประยุกต์และปรับใช้ให้เข้ากับลูกๆ ของตัวเองได้ เพราะสุดท้ายแล้วการฟัง เข้าใจ และเชื่อมั่นในตัวลูก
ก็ยังเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกครอบครัวต้องมีเพียงแค่มีวิธีและแนวทางที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่อยากทราบเทคนิควิธีการโค้ชลูกให้เอนท์ติดโปรแกรมอินเตอร์ฯ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์อย่างมีความสุข สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02.658.4880 Line: @warwick

PATH TO SUCCESS Workshop & family consultation

ทุกคำถามของคุณเกี่ยวกับการสอบเข้าอินเตอร์ฯ
จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 
เรามีคำตอบให้ในเวิร์คช็อป 1.5 ชั่วโมงนี้