พี่บีกล่าวว่า … (1) น้องเต๋อ นิธิวัฒน์ สีศิลปาชัย (2) น้องไพร์ซ กฤตณัช เลิศหิรัญวิบูลย์ และ (3) น้องแทน ธนพัฒน์ อุบลจิต คือ Warwicksters ที่ทำคะแนนสูงสุดของ BBA Chula จนได้ชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ในปี 2018, 2019, และ 2020 ไล่เรียงมาตามลำดับ ทั้งสามคนมีพื้นฐานความตั้งใจที่ดี มีความมุ่งมั่น แต่ก็จะมีสไตล์และรายละเอียดที่ต่างกัน
อย่างน้องไพร์ซจะเข้ามาตั้งแต่ยังเด็กสุด มาเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ ม.3 ขึ้น ม.4 คือเริ่มกรูมตั้งแต่ศูนย์จนเต็มร้อย อยู่ในคลาสเค้าจะเป็นคนที่โฟกัสตลอด ตั้งใจหมั่นฝึกฝน และ follow up ตามสเต็ปอย่างดี บางอย่างถึงแม้จะรู้อยู่แล้วแต่ก็จะไม่ข้ามสเต็ป เค้าเชื่อมั่นในตัวเรา เพราะเค้าเรียนกับเราทั้งบ้าน พี่ชายก็เข้าไอวี่ลีคได้ พี่สาวก็เข้าจุฬาฯ ได้ เค้าก็เลยทำตามอย่างดี ทำให้ดีเทลพื้นฐานแน่น ขมวดแต่ละ process ให้ผ่านไปได้ง่ายขึ้น
ทุกคนที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Warwick Institute จะถูกเซ็ตเป้าให้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาแล้วว่า เรามาเพื่อที่จะคว้าความสำเร็จให้ได้ด้วยศักยภาพสูงสุดที่เรามี เราจัดปฐมนิเทศสำหรับเด็กเข้าใหม่ทุกคน แต่ไม่ใช่ให้มาฟังว่าที่นี่มีคอร์สอะไร ครูคนไหนสอน แต่มาทำความเข้าใจกันว่าทำไมเราต้องมุ่งเป้ากันที่โปรแกรมอินเตอร์ฯ จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์เท่านั้น แล้วเพื่อให้ทำสำเร็จตลอดระยะเวลาอีก 1-2 ปีต่อจากนี้เราจะต้องทำยังไงกัน เราต้องสะกิดกันตั้งแต่วันแรกก่อนเริ่มวิ่ง เพราะการสร้าง self-motivation เป็นสิ่งสำคัญมาก และเด็กที่ Warwick Institute มีสิ่งนี้กันทุกคน
นอกจากนั้นเราจะมีควิซเล็ก ๆ ให้ทำทุกวัน เพื่อให้เด็ก alert และมีการบ้านให้ทบทวนวิชา เด็ก ๆ ที่เข้าใจสเต็ปเหล่านี้และ follow up ตามอย่างตั้งใจ ก็เป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างน้องไพร์ซเช่นกัน น้องเองเค้าก็ตั้งใจมาเรื่อยและทำได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมีจุดหักเหที่พี่เค้าได้ไอวี่ลีค เค้าก็เลยแพลนจะไปไอวี่ลีคเหมือนกัน แต่เราก็แนะนำให้เค้าสอบจุฬาฯ ไว้ด้วย จะได้มีคณะสำรองไว้ระหว่างรอผลสอบเมืองนอก เค้าก็ติด BBA Chula ได้คะแนนสูงสุด
ส่วนน้องเต๋อก็มาเริ่มที่นี่ตั้งแต่แรกเหมือนกัน สำหรับเต๋อนี่เห็น passion เค้าชัดตั้งแต่คลาส beginner แรกเลย มี eager ผลักดันให้มุ่งไปสู่ความสำเร็จ มีการตั้งเป้าว่าต้องสอบให้ได้คะแนนดี และ follow up ทุกอย่างตามที่บอกเช่นกัน อยู่ในคลาสก็เป็น raising star มาก มี response ตอบคำถามตลอด มีการขอ exercise มาทำเพิ่ม
เด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน เราต้องรู้จักเด็กของเราว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน ต้องมีคนเก่งคนอ่อนเราก็ต้องยอมรับ ที่นี่เราเลยซอยคลาสย่อยกว่าที่อื่น ที่อื่นแบ่งแค่ 2 หรือ 4 แต่ที่ Warwick Institute แบ่งถึง 6 เพื่อที่เราจะได้แบ่งกลุ่มให้เด็กที่พื้นฐานใกล้กันเรียนด้วยกัน เพราะบางคลาสก็ไปได้เร็ว แต่บางคลาสก็ต้องปูรายละเอียดเยอะหน่อย ใช้เวลากับแต่ละพาร์ทมากหน่อย มีหา extra เข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มความเข้าใจ
อย่างเต๋อตอนแรกก็มีกลัวว่าเค้าจะรู้สึกว่าง่ายเกินไป หรือไม่ challenge มั้ย แต่เค้าจะคอยถามว่าอย่างนี้ถูกมั้ยครับ ทำอย่างนี้โอเคมั้ย เค้าเข้าใจว่าบางอย่างก็ต้องหยอดดีเทลให้แน่นก่อน แล้วค่อยปูต่อไปข้างบนทีละขั้น คะแนนเค้าก็จะเด้งขึ้นเรื่อย ๆ และการแบ่งคอร์สก็ไม่ใช่เพื่อการสอนอย่างเดียว แต่เด็ก ๆ ที่เรียนด้วยกันก็จะเกิด group motivation แล้วก็จะช่วยเหลือกัน เพราะเราไม่ได้แค่เรียนอย่างเดียว เรายังมีแอคทิวิตี้ให้ทำร่วมกันตลอด เรียนเสร็จหิวข้าวจังเราก็พาน้อง ๆ ไปกินด้วยกัน ไลฟ์สไตล์และเป้าหมายของเด็ก ๆ ก็จะคล้ายกันมากขึ้น ถึงไม่ได้เรียนคลาสเดียวกันเดินสวนกันก็ยิ้มให้กัน รู้จักกันหมด เราก็มาใช้เวลาอยู่ด้วยกันได้โดยไม่อึดอัด เต๋อเองตอนแรกมาก็เป็นคนเงียบ ไม่พูด แต่อยู่ไปก็เริ่มเปิดใจ มีเพื่อน มีสังคม มีพี่ มี classmate ที่ดี เห็นได้ชัดเลยว่าน้องเรียนอย่างมีความสุขมากขึ้น เพื่อน ๆ รัก เรียนอย่างสนุกสดใส ตั้งใจโฟกัสมาก ในฐานะคนสอนก็บอกได้เลยว่าสอนเต๋อแล้วสนุก เต๋อเป็นคน sharp มาก ตอนแรกเต๋อตั้งเป้าไว้ว่าจะเข้า BE Thammasat แต่ผมบอกเลยว่าเสียดายคะแนน คะแนนดีอย่างนี้ไปไอวี่ลีคเลยดีกว่า และในที่สุดน้องก็ได้ทุน University of California ได้ไปเรียนที่นั่น แต่ก็สอบ BBA Chula ติดได้คะแนนสูงสุดด้วย
ส่วนน้องแทนเตรียมตัวมาเยอะอยู่แล้ว ชัดเจนกับเป้าหมายตัวเองมาก แทนบอกเลยว่าผมอยากได้ SAT Math 800 เต็ม ผมเลยต้องมาหาพี่ มาเรียนรู้ tactic ในเรื่องข้อสอบจาก Warwick Institute คือน้องเค้าพื้นฐานดีอยู่แล้ว แค่ยังขึ้นไปที่คะแนนเต็มไม่ได้ ณ ตอนนั้น สิ่งที่ต้องใส่เข้าไปก็คือการอุดรูรั่วตัวเอง ทำให้รู้จักข้อสอบมากขึ้น รู้จักสไตล์ข้อสอบ ลักษณะคำถาม รู้ pattern รู้ direction
ในเรื่องข้อสอบนี้ที่ Warwick Institute เราจะเน้นอยู่แล้ว เด็ก ๆ ของเราต้องเป็น master เรื่องข้อสอบ ให้รู้ทุกเรื่อง รู้แม้กระทั่งรูรั่วของข้อสอบ สอนวิธีการเข้าห้องสอบ การดูตัวเองในห้องสอบ หรือข้อผิดพลาดที่มีโอกาสเกิดขึ้นก็ต้องเรียนรู้ บางทีเลยต้องเอาตัวอย่าง careless mistakes ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นจริงมาให้น้อง ๆ ได้รู้กันไว้ ซึ่งในส่วนของน้องแทนเรื่องพวกนี้ก็เป็นประโยชน์สำหรับเค้ามาก เค้าก็ทำคะแนนเต็มใน SAT Math ได้อย่างที่ตั้งใจและได้คะแนนสูงสุดของ BBA Chula ในที่สุด