ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก แต่ทุกปัญหาจะถูกแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อเราทำความเข้าใจ ลงมือแก้ไข และสร้างการเปลี่ยนแปลง

GSSE (Bachelor of Arts in Global Studies and Social Entrepreneurship) โลกคดีศึกษาและการประกอบการสังคมเป็นคณะหนึ่งที่มีปณิธานที่จะสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมผ่านการบ่มเพาะนักศึกษาให้เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ แต่น้อง ๆ และพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนก็ยังสงสัยว่าคณะนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือ จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทาง Warwick Institute จัดงานสัมมนา GSSE Open House ขึ้น โดยภายในงานได้รับเกียรติจากคณบดี ผศ.ดร.ประภาภรณ์ ติวยานนท์ มงคลวนิช, ดร.นพงศ์ รักขพันธุ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรระดับปริญญาตรี และ ดร.ดีเพนดรา เคซี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ ร่วมด้วยศิษย์เก่าวอร์ริค บัณฑิตป้ายแดงจาก GSSE พี่จินนี่ จินต์ภาณี
สุขวัฒโน มาพร้อมนักศึกษา GSSE ชั้นปีที่ 4 พิมพ์ลภัส สุขบรรจง และ สุชาติ นิหะ ที่พร้อมจะมาตีแผ่ข้อมูลของคณะแบบครบและ
จบในที่เดียว

GSSE สอนเกี่ยวกับอะไร
เป็นที่แน่ชัดว่าคณะนี้ต้องการปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ เข้าใจเพื่อนมนุษย์ รู้ถึงแก่นของปัญหา แก้ไขด้วยนวัตกรรมสังคม และสร้างจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นคณะนี้จึงไม่ได้มุ่งเน้นการสอนเชิงวิชาชีพ ไม่ได้สอนให้เป็นหมอ นักวิทยาศาสตร์ ครู นักบัญชี วิศวกร หรือสถาปนิก แต่จะผลักดันให้นักศึกษาได้เรียนรู้แบบสหวิทยาการผ่านทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ยกตัวอย่างเช่น ความเป็นผู้นำ, การจัดสรรเวลา, การทำงานเป็นทีม, การแก้ปัญหา, การสื่อสาร และการคิดวิเคราะห์ ที่เป็นทักษะสำคัญในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ใน
ยุคปัจจุบัน ซึ่งทุกคนจะได้เรียนรู้จากการลงพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ผ่านประสบการณ์จริง

โปรแกรมนี้เหมาะกับใคร
โปรแกรมนี้จัดตั้งขึ้นมาสำหรับนักศึกษาที่ต้องการสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคม สร้างแรงกระเพื่อมในการตระหนักรู้ถึงปัญหาต่าง ๆ แล้วอยากแก้ไขและพัฒนาสิ่งเหล่านั้นให้ดีขึ้น อยากเป็นผู้นำในบริบทนานาชาติ หรืออยากสร้างธุรกิจเพื่อสังคมก็เหมาะที่จะเรียนที่นี่ เพราะก่อนที่เราจะปรับสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เราต้องเริ่มต้นเปลี่ยนที่ตัวเองก่อน และ GSSE จะช่วยสนับสนุนให้ทุกคนไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างแน่นอน

GSSE ได้เรียนรู้อะไรบ้าง
สิ่งหนึ่งที่คณะนี้มีไม่เหมือนคณะอื่นนั่นก็คือก่อนเปิดภาคเรียนแรกของนักศึกษาใหม่จะมี Summer Pre-Program ให้ทุกคนได้มา
ทำความรู้จักกันก่อนเริ่มเรียนจริง การเรียนการสอนไม่เน้นการจดเลคเชอร์ แต่จะเป็นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง
(Project Based-learning) เพื่อสร้างทักษะต่าง ๆ ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน ได้รับประสบการณ์ตรงในทุกภาคเรียนผ่านการลง
ภาคสนามไปใช้ชีวิตกับชุมชนและสังคมจริง ๆ เจอปัญหาจริง ได้ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง พร้อมทั้งได้ร่วมงานกับกับองค์กรชั้นนำ
หลากหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น PTT บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), NIA สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, SET ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย, SCG บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือแม้แต่ VOGUE Magazine ที่สำคัญคือนักศึกษาจะมีโอกาสไปเรียน
แลกเปลี่ยนต่างประเทศเพื่อศึกษาบริบทในแง่มุมต่าง ๆ ในประเทศนั้น ๆ ในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อาทิ Aoyama Gakuin University ประเทศญี่ปุ่น, Korea University ประเทศเกาหลี, University of California ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Technische Universität Dortmund ประเทศเยอรมนี เป็นต้น

จะได้ฝึกงานกับ UN จริงไหม
ในช่วงปี 2 นักศึกษาทุกคนจะต้องเข้าไปฝึกงานกับองค์กรนานาชาติ ซึ่งทางคณะจะไม่ได้บังคับว่าแต่ละคนต้องไปที่ไหน ทุกคนมีอิสระในการเลือก แต่เนื่องด้วยทางคณะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรระดับประเทศและระดับโลก อาทิ องค์การสหประชาติ (United Nation), องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) รวมถึงองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)

จบไปแล้วทำงานอะไร
องค์ความรู้และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จะทำให้นักศึกษาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ดีสามารถประยุกต์ใช้สิ่งที่ตนเองมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายคนอาจเข้าไปทำงานในองค์การระดับโลก อาทิ องค์การสหประชาติ (United Nation) หรืออาจเป็นที่ปรึกษาในบริษัทต่าง ๆ เพราะทุกคนล้วนมีประสบการณ์ตรงในการแก้ปัญหารอบด้าน และบางคนอาจสร้างธุรกิจเพื่อสังคมในรูปแบบของตนเองขึ้นมาก็ได้

Admission Requirement เป็นอย่างไร
GSSE มีเกณฑ์การคัดเลือกต่างจากคณะอื่นตรงที่ทางคณะจะไม่นำคะแนนทุกอันมารวมกันแล้วแบ่งสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ แต่จะคัดเลือกคนที่ผ่านเกณฑ์ขึ้นต่ำและส่ง Requirement ครบทั้ง 4 อย่างอันได้แก่
1) English Proficiency เพียงมีคะแนน IELTS 6+, TU-GET PBT 500+ หรือ TOEFL IBT 61+
2) GPAX ขั้นต่ำ 2.5
3) Portfolio ที่แสดงความเป็นตัวเองให้มากที่สุด
4) Statement of Purpose (SOP) เขียนแนะนำตัวเองและอธิบายให้ได้ว่าทำไมเราถึงควรเป็นคนที่ถูกเลือก
เมื่อส่ง Requirement ครบทั้ง 4 อย่างแล้ว ก็จะได้ไปต่อในส่วนของการสัมภาษณ์ที่คิดเป็นคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นด่านสุดท้ายก่อนเปิดประตูไปนั่งใน GSSE จะเห็นได้ว่าคะแนนภาษาอังกฤษทางคณะต้องการแค่เพียงคะแนนผ่านเกณฑ์ ดังนั้นสิ่งที่จะต้องทุ่มเทก็คือ Portfolio, Statement of Purpose (SOP) และการสัมภาษณ์
น้อง ๆ คนไหนอยากเป็นเด็ก GSSE ว่าที่ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ติดต่อได้ที่ Warwick Institute 02-658-4880 หรือ LINE: @warwick
