เพราะนอกจากจะมีการเรียนที่เป็นภาษาอังกฤษที่นิสิตนักศึกษาสามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคตแล้ว โปรแกรมอินเตอร์ฯ ยังมีการอัพเดตองค์ความรู้เพื่อตอบรับเทรนและความต้องการของตลาดโลกอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่แปลกเลยที่คณะสายบริหารธุรกิจได้รับความสนใจจากเด็กเจนเนอร์เรชั่นใหม่อย่างต่อเนื่องและมีคะแนน TCAS สูงมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
Warwick Institue จึงค้นหาศิษย์เก่าจากคณะต่าง ๆ และได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับเพชรของแต่ละคณะอันได้แก่
(1) คุณเพลน ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ (ศิษย์เก่า BBA Chula) – เจ้าของธุรกิจ K Maison Boutique Hotel & Kay’s
(2) คุณตั๋ง อนัคฆ์ ตังทัตสวัสดิ์ (ศิษย์เก่า BBA Thammasat) – Principal, Digital Bank Strategy จากธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง SCB
(3) คุณบอส สิรพัชร บุณยะปาน (ศิษย์เก่า EBA Chula) – Head of Offline Business Planning CPD จากบริษัทดังอย่าง L’Oreal Group
(4) คุณก้อง ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล (ศิษย์เก่า BE Thammasat) – กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) และ CEO บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่คอร์เปอเรชั่น จำกัด
(5) คุณน้ำ นิชา หนุนภักดี (ศิษย์เก่า Comm Arts Chula ) – เจ้าของ Digital Marketing Agency ชื่อดังอย่าง Unbox BKK
ทุกท่านได้เข้ามาบอกเรื่องราวของตนให้แก่น้อง ๆ และผู้ปกครองว่าพวกท่านมีเคล็ดลับในการใช้ชีวิตอย่างไร DNA ของแต่ละคณะมีส่วนช่วยทำให้แต่ละท่านมีความโดดเด่นและแตกต่างอย่างไรบ้าง

คุณเพลน ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ (ศิษย์เก่า BBA Chula)
ครอบครัวของคุณเพลนทำธุรกิจค้าขาย ทำให้เติบโต ซึมซับ และเรียนรู้ด้านการบริหารมาตลอด อีกทั้งการเรียนที่ BBA Chula ก็สนับสนุนให้มีโอกาสเรียนรู้และค้นหาธุรกิจของตนเอง หลังจากเรียนจบ
จากรั้วจุฬาฯ คุณแพลนจึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท MBA จาก Columbia Business School อีกด้วย เมื่อสำเร็จการศึกษามีองค์ประกอบหลายอย่างที่กล่าวมาหล่อหลอมให้เธออยากเป็นนักธุรกิจ และต้องการนำวิชาความรู้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดจนเกิดเป็นธุรกิจของตนเองอย่าง K Maison Boutique Hotel โดยมีหน้าที่หลักในการดูแลส่วนของการบัญชีและการตลาด แต่การทำธุรกิจก็ไม่ใช่ความสุขเดียวที่มี เพราะนอกจากนี้คุณเพลนก็ชื่นชอบในการทำอาหารด้วย ดังนั้นการนำทั้งสองอย่างมาประกอบกันก็น่าจะมีความเป็นไปได้ เธอเชื่อว่า “ความชอบของเราสร้างการเรียนรู้ใหม่ได้เสมอ” ทำให้โรงแรมของเธอมีอาหารเช้าที่ไม่เหมือนใครเสิร์ฟให้กับคนที่เข้ามาพักได้ลิ้มลอง อีกทั้งยังมีคาเฟ่เล็กๆ ที่มีโทนสีสดใสเปิดให้บริการอีกด้วย
การจะดูแลธุรกิจนั้นไม่ง่าย เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันเราต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ต้องวางแผนและทำการตลาดให้ดี เพราะในอุตสาหกรรมการโรงแรมนั้นไม่ได้มีธุรกิจเราแค่ธุรกิจเดียว และเมื่อเราเป็นเจ้าของธุรกิจเราต้องไม่ลืมว่ามีอีกหลายชีวิตคอยช่วยเหลือเราตลอดนั่นคือพนักงาน ดังนั้นในวันที่เกิดปัญหา เราพักได้แต่เราหยุดไม่ได้ เพราะทุกคนเหนื่อยเพื่อเรา ความละเอียดอ่อนเหล่านี้เองที่ทำให้ K Maison Boutique Hotel ยังคงดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่อง และ Kay’s Cafe เองค่อย ๆ ขยายสาขามากขึ้นเพื่อต่อยอดการเติบโต

คุณตั๋ง อนัคฆ์ ตังทัตสวัสดิ์ (ศิษย์เก่า BBA Thammasat)
แรกเริ่มเดิมทีคุณตั๋งไม่ได้คิดว่าตนเองจะก้าวเข้ามาในสายบริหารธุรกิจ เพราะเป็นเด็กที่ชอบเล่นเกมมาก ฝันอยากเรียนวิศวะฯ และอยากเป็นนักประดิษฐ์ แต่ด้วยความเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ทำให้ค้นหาตัวเองได้ไม่ยาก เขาเลือกเรียนรู้จากคนใกล้ตัวก่อนเป็นอันดับแรก โชคดีที่พี่ชายของเขาเรียนวิศวะฯ ส่วนพี่สาวเรียน BBA Thammasat การคิดวิเคราะห์และตกตะกอนความคิดกับตัวเองก็ค้นพบว่าสายบริหารตอบโจทย์เขาได้มากกว่า เพราะไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตามเขามั่นใจว่า “บัญชี” คือสิ่งสำคัญ เขาจึงตัดสินใจเรียน BBA Thammasat หลังจากเรียนจบ จึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อที่ Columbia Business School MBA เพื่อเจาะลึกด้านการบริหาร และเมื่อจบการศึกษาจึงมีโอกาสได้ทำงานที่สหรัฐอเมริกา ที่บริษัทชั้นนำด้านการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ อย่าง McKinsey&Company หรือบริษัทด้านการเงินและการลงทุนอย่าง JP Morgan Chase & Co. และเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงเข้าร่วมงานกับทางธนาคารยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยอย่าง SCB
กว่าจะประสบความสำเร็จทุกวันนี้ได้นั้นไม่ง่าย ชีวิตคุณตั๋งมีความเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ระหว่างทางก็ผ่านมาได้ด้วยความสุข และมีแง่คิดฝากไว้ประมาณ 4 หัวข้อ
- Resilience เราต้องมีความยืดหยุ่นกับตัวเอง เวลาเจอเรื่องเศร้าเราเสียใจได้แต่อย่าจมกับมันนาน
- Learn from everything ค่อย ๆ เรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว แม้สิ่งนั้นจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยโอเค แต่เราเรียนรู้และเติบโตจากมันได้เสมอ
- Own your story ทุกอย่างไม่มีถูกผิด จงลงมือทำค้นหาเรื่องราวชีวิตของตัวเราเอง
- Integrity & Inclusion ให้คุณธรรมคงอยู่ในใจ พร้อมทั้งยินดีให้ทุกคนเดินไปพร้อมกัน

คุณบอส สิรพัชร บุณยะปาน (ศิษย์เก่า EBA Chula)
คุณบอสเติบโตมาในครอบครัวข้าราชการ แต่มี Passion ของนักธุรกิจ อันมีจุดเริ่มต้นมาจาก “ความไม่เข้าใจแต่ใฝ่รู้” ครั้งหนึ่งในวัยเด็กเขาได้ฟังข่าวเศรษฐกิจแต่ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนเกิดเป็นความสงสัยอยากทำความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจเป็นพิเศษ ประกอบกับเล็งเห็นว่าในอนาคตภาษาอังกฤษจะกลายเป็นภาษาหลักที่ใช้สื่อสารในระดับสากลแน่ ๆ จึงตัดสินใจเข้าเรียนในโปรแกรมอินเตอร์ แม้ว่าตอนที่เข้าไปเรียนใน EBA เขาจะไม่ได้ชอบเรียนทุกวิชาตามหลักสูตร แต่ในแต่ละวิชาเราจะได้ตรรกะและหลักการคิดอะไรกลับมาเสมอ หลังเรียนจบคุณบอสก็เริ่มต้นการทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขาย เพราะเขาเชื่อว่าทักษะการขายนั้นสำคัญต่อธุรกิจ และเป็นจุดสำคัญของกลไกการตลาดที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจได้โดยตรง ทำให้เขามีประสบการณ์และได้ทำงานในบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่อย่าง Procter & Gamble Trading Thailand และ L’Oreal Group ในปัจจุบัน
การจะมีตำแหน่งใหญ่ในบริษัทต่างชาตินั้นไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถ เพราะถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจอย่างคุณบอสเราจะมีแรงผลักดันตัวเองไปถึงหมุดหมายได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเรามองคนที่ประสบความสำเร็จด้วย “Skill Set” ที่พวกเขามี ไม่ใช่ที่ความรวย เราจะพัฒนาตัวเองต่อได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

คุณก้อง ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล (ศิษย์เก่า BE Thammasat)
คุณก้องเชื่อว่าการรู้ให้กว้างและรู้รอบด้านนั้นสำคัญ ซึ่งการเรียนในสายบริหารนั้นก็ตอบโจทย์และตรงใจ เพราะเขาอยากเป็นคนที่ “Think Global, Act Local” มองเห็นภาพรวมทั้งหมดแต่เข้าใจในทุกรายละเอียด คุณก้องอธิบายว่าความจริงแล้วไม่มีคณะไหนในโลกนี้ที่สอนเราว่าต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้างเราถึงประสบความสำเร็จ แต่องค์ความรู้เหล่านั้นจะสร้างให้เรามีรากฐานทางความคิด มีภาวะผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และสร้าง Impact ให้กับสังคมได้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจ ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องสร้าง Impact ให้กับลูกค้าและงานของเราได้ เช่น เราเปิดร้านอาหาร ถ้าหากเราสร้างบรรยากาศที่ดี สร้างรอยยิ้มได้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะมันจะทำให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำเกิดการบอกต่อได้ด้วยตัวของมันเอง
คุณก้องอธิบายว่าถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลง คณะในสายบริหารอาจไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิต เพราะนั่นแปลว่าเราไม่ได้อยากสร้างความเติบโตให้กับลูกค้าหรือสังคม และไม่ได้อยากปรับให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพนังงานในความดูแลของตนเองนั้นดีขึ้น ดังนั้นถ้าอยากเติบโตในสายบริหารเราต้องสร้างความเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้เราต้องมี Mind Set ที่ดีมีทักษะในการสื่อสารที่ดี สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ กล้าที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องแม้มันอาจไม่ถูกใจใครบางคน และที่สำคัญคือต้องกล้า
ยอมรับความจริงพร้อมเรียนรู้จากความผิดพลาด เพราะความผิดพลาดไม่ใช่ความล้มเหลว จงเอาข้อคิดที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้และพัฒนาตนเอง พัฒนาธุรกิจ และพัฒนาสังคม

คุณน้ำ นิชา หนุนภักดี (ศิษย์เก่า Comm Arts Chula)
ความฝันในวัยเด็กของคุณน้ำคือการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสื่อ ในสมัยนั้นจะเป็นสื่อทางโทรทัศน์เป็นส่วนมาก แม้ในปัจจุบันสิ่งที่สามารถสร้าง Impact ให้กับสังคมได้จะกลายเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ความตั้งใจของเธอก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยน ความที่เป็นเด็กโรงเรียนอินเตอร์ฯ ประกอบกับเป้าหมายที่เธอตั้งไว้ทำให้การตัดสินใจเรียน Comm Arts Chula นั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ไม่ยาก ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความสุข ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายทำให้มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น มีความสุขในการเรียนมากโดยเฉพาะวิชาการตลาด แม้ว่าจะมีวิชาที่ไม่ถนัดอย่างการออกแบบ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันกลับเป็นองค์ความรู้หนึ่งที่สำคัญในชีวิตการทำงานของเธอ
หลังจากเรียนจบคุณน้ำเคยทำงานทั้งในบริษัทสายแฟชั่น รวมถึงเป็นพนักงานรุ่นแรกของ Line Thailand ด้วย เมื่อสั่งสมประสบการณ์มาได้ระดับหนึ่งแล้วเธอก็ตัดสินใจลงมือสร้างธุรกิจการจัดการสื่อของตัวเอง เปิดบริษัท Digital Marketing Agency ของตัวเองอย่าง Unbox BKK ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ได้ร่วมงานกับเหล่า Influencer หลากหลายวงการ และต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำให้เธอเป็นเธอได้อย่างทุกวันนี้เพราะ “ความเป็นนิเทศ จุฬาฯ” อันประกอบไปด้วย
- Communication skills จะบริหารได้ต้องสื่อสารให้เป็น เมื่อเกิดปัญหาต้องพร้อมอธิบาย ชี้ให้เข้าใจในหลักการและเหตุผล พร้อมให้แนวทางการแก้ไขได้
- Connection รุ่นพี่รุ่นน้องจากรั้วมหาวิทยาลัยนั้นเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่มีส่วนช่วยในการผลักดันความสำเร็จ
- Basic design skills จะทำสื่อได้ดีเราต้องมีพื้นฐานด้านการออกแบบ ต้องมองให้แตกว่าแบบไหนดีตลาดได้
- Keep updated with social media ต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ยิ่งโลกหมุนไวเราต้องยิ่งก้าวให้ทัน
- Strategic thinking คิดอย่างเป็นระบบเพราะปัจจัยต่าง ๆ นั้นเป็นองค์ประกอบหนึ่งของการบริหารจัดการเสมอ

ในช่วงท้ายคุณ Sharky Blahaj จาก Learning Cafe และพี่แบงค์ ดร. อภิชัย ไชยวินิจ ประธานสถาบันวอร์ริค ได้ร่วมกันถามวิทยากรทั้ง 5 ท่านแบบ Panel Discissionเพื่อให้เห็นความแตกต่างของแต่คณะ ทั้งองค์ความรู้ ทักษะ และ DNA ที่ผูกติดตัวมาจนทุกท่านจนนำพาให้ทุกท่านประสบความสำเร็จมา ณ ปัจจุบัน
คำตอบที่ได้แสดงเห็นได้ว่าศิษย์เก่าของแต่ละคณะนั้นมีการมองโลกและทำงานแตกต่างกันออกไป แต่ละท่านมีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่ในความแตกต่างนั้นก็มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนกันเสมอนั่นคือพวกเขาได้เลือกในสิ่งที่ใช่และได้ทำในสิ่งที่รักจนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการเตรียมตัวเพื่อพิชิตที่นั่งคณะสายธุรกิจ ในโปรแกรมอินเตอร์ฯ จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Warwick Institute 02-658-4880 หรือ LINE: @warwick